-
เคล็ดลับน่ารู้ ดื่มกาแฟอย่างไร ไม่ให้ฟันเหลือง
หน้าแรก
เคล็ดลับน่ารู้ ดื่มกาแฟอย่างไร ไม่ให้ฟันเหลือง
กาแฟทำฟันเหลือง! เปิดเคล็ดลับดื่มอย่างไร ไม่ให้ทิ้งคราบ
สิ่งหนึ่งที่คนทำงานส่วนใหญ่มักขาดไม่ได้ในทุก ๆ เช้า คือ “กาแฟ” แต่ดื่มทีไรคราบกาแฟก็ตามมาด้วยทุกที จนหลายคนมักตั้งคำถามเสมอว่าแล้วจะมีวิธีที่จะช่วยรักษารอยยิ้มของเราให้ขาว ไม่เป็นคราบเหลืองได้หรือไม่ โชคดีที่ปัญหานี้ มีเคล็ดลับมากมายที่จะช่วยรักษาฟันของเราให้กลับมาขาวได้ดังนี้
ตัวการร้ายทำฟันเหลือง
ความจริงแล้วสาเหตุที่มักทำให้ฟันของเราเป็นคราบ คือ พฤติกรรมการรับประทานอาหารและการใช้ชีวิต เพราะเศษอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดสีต่าง ๆ เช่น กาแฟ ชา ไวน์ ซอส และของหวาน มีฤทธิ์เป็นกรด จะเกาะติดและเคลือบชั้นนอกสุดของฟันเอาไว้ เป็นสาเหตุที่ทำให้สีฟันของเราเปลี่ยนไปนั่นเอง
นอกจากนี้คราบบนฟัน ก็อาจเป็นผลพวงมาจากอายุได้เหมือนกัน เพราะสารเคลือบฟันของเราจะบางลง ไปพร้อม ๆ กับเนื้อฟันที่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองไปตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งการที่สารเคลือบฟันของเราบางลงนี้ ยิ่งทำให้เนื้อฟันที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนั้น แสดงออกมาให้เห็นเด่นชัดมากยิ่งขึ้น
กาแฟ" สาเหตุของฟันเป็นคราบที่พบบ่อย
“กาแฟ” เป็นต้นเหตุที่พบได้บ่อยว่าทำให้ฟันเป็นคราบเหลือง แต่ไวน์แดง โซดา ชา น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มชูกำลังเองก็ทิ้งคะแนนห่างจากกาแฟไม่ไกล นอกจากนี้บุหรี่ ขนมหวาน ลูกกวาด และซอสมีสีต่าง ๆ เช่น ซีอิ๊ว เองก็เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ฟันเปลี่ยนสี
" การกินอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ทำให้สารเคลือบฟันกร่อน เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฟันผุ และฟันเหลืองได้ในที่สุด "
หลอด-การแปรงฟันหลังอาหาร ช่วยปกป้องฟัน
มีการตั้งคำถามว่าการดื่มโดยใช้หลอดจะช่วยปกป้องฟันของเราได้หรือไม่ คำตอบคือ ใช่ เพราะการดื่มโดยใช้หลอดช่วยลดปริมาณการสัมผัสระหว่างเครื่องดื่มและพื้นผิวด้านนอกของฟัน ซึ่งจะลดการเกิดคราบสีเหลืองบนฟันที่อาจเกิดขึ้นได้ แนะนำว่าลองพกหลอกแบบใช้ซ้ำ ก็เป็นอีกทางแก้ที่ดีไม่น้อย
หรือหากใครไม่อยากพกหลอด ก็สามารถจิบน้ำเปล่าระหว่างหรือหลังการดื่มเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้ น้ำจะช่วยชะล้างคราบหรือกรดที่อยู่บนฟันออก
ส่วนการแปรงฟันหลังอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มนั้น คำตอบของทันตแพทย์แตกต่างกันเล็กน้อย บางคนแนะนำว่าการรอแปรงฟันหลังอาหาร 1-2 ชั่วโมงจะไม่ได้ผลดีเท่าการแปรงฟันในทันที ขณะที่อีกเสียงแนะนำว่า ควรรอแปรงฟันหลังอาหารอย่างน้อย 30 นาที หรือนานกว่านั้น เพราะจะสามารถแปรงคราบที่ฝังลึกเข้าไปในโครงสร้างฟันได้ แต่วิธีนี้ต้องจิบน้ำหรือบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าหลังอาหารทันทีด้วย
อย่างไรก็ตามทันตแพทย์ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า คราบต่างๆ จะลดลงได้ดีที่สุด โดยการแปรงฟัน การใช้ไหมขัดฟัน การจิบน้ำหรือบ้วนปากด้วยน้ำเปล่า และการไปพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอปีละ 2 ครั้ง
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์-เบกกิ้งซา ทำให้ฟันขาว?
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) และเบกกิ้งโซดา (Baking Soda) สามารถช่วยฟอกสีฟันได้ก็จริง แต่ไม่แนะนำให้ใช้แทนยาสีฟัน เพราะทั้งสองอย่างนั้นเข้มข้นมาก และมีฤทธิ์กัดกร่อน อาจส่งผลให้สารเคลือบฟันยิ่งบางลงได้ ดังนั้นแนะนำว่าให้นำไปเจือจางด้วยน้ำเปล่าก่อนจะใช้ และควรใช้เพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น
หมดปัญหาฟันเหลืองแบบเร่งด่วน ด้วยการฟอกฟันขาวแบบ Zoom
วิธีการฟอกสีฟันที่ดีและรวดเร็วที่สุด คือการให้ทันตแพทย์ฟอกสีฟันให้ ซึ่งจะใช้เวลาทำประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ก็เห็นผลทันที โดยสามารถทำได้ทุก ๆ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
หลายคนอาจกลัวเกี่ยวกับอาการปวดฟันหลังฟอกสีฟัน ทันแพทย์บอกว่า ปัจจุบันมีการฟอกสีฟันขาว ที่เรียกว่า “Zoom Advanced Power” เป็นการฟอกสีฟันโดยการยิงเลเซอร์เข้าที่เจลฟอกสีฟันที่เคลือบฟันไว้ เจลฟอกสีฟันนี้มีฤทธิ์อ่อนโยนช่วยขจัดสีฟันทำให้ผิวฟันที่เป็นคราบเหลือง ๆ จางลง และยังมีการจัดวาง Light Guide นำแสงเข้าช่องปากของผู้รับการฟอกอย่างสะดวกสบาย
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นอาจทำให้เสียวฟัน แต่ไม่เกิน 1 วันก็หาย และยืนยันว่าปลอดภัย ไม่มีอันตรายต่อฟัน แถมยังทำให้ฟันขาวยาวนานอย่างเป็นธรรมชาติ
วิธีดูแลฟันหลังฟอกสี ไม่ให้กลับมาเหลือง
อย่างไรก็ตามฟอกฟันแล้ว หากยังไม่ปรับพฤติกรรม สิ่งเดิมๆเหล่านี้อาจกลับมาทำร้ายฟันของเราได้ใหม่ ดังนั้นควรดูแลฟัน ดังนี้
- ทำความสะอาดช่องปากอย่างถูกวิธี โดยการแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน บ้วนปากเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดสี มีฤทธิ์เป็นกรด ที่จะทำให้เกิดคราบบนฟัน เช่น ชา กาแฟ ไวน์ ซอส ของหวาน และหากจำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มดังกล่าว ควรใช้หลอดดูดแทนการดื่มจากแก้ว
- งดการสูบบุหรี่
- หมั่นตรวจสุขภาพฟันกับทันตแพทย์เป็นประจำ
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก https://www.pptvhd36.com/health/food/2108
คลิกดูสถิติผู้คลิกอ่าน 75,607 ครั้ง
สาระน่ารู้ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
-
พิษภัยบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่ควรมองข้าม
21 พฤศจิกายน 2568 1,769 -
เตรียมตัวรับกับฤดูหนาว
31 ตุลาคม 2568 2,811 -
ห้องน้ำสาธารณะ รู้ก่อนใช้ห่างไกลเชื้อโรค
30 กันยายน 2568 4,214 -
ทำความรู้จักโรคติดเชื้อ HIV
30 พฤษภาคม 2568 11,568 -
เล็ก แต่ ร้าย !! แมลงก้นกระดก ภัยใกล้ตัวหน้าฝน
28 เมษายน 2568 8,444 -
วิธีปฏิบัติตัวอย่างไรเพื่อให้รอดปลอดภัยในระหว่างเกิดแผ่นดินไหวและหลังแผ่นดินไหว
31 มีนาคม 2568 9,464 -
อันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า
28 กุมภาพันธ์ 2568 9,462 -
ฝุ่น PM 2.5
28 มกราคม 2568 10,861 -
5 โรคฮิตที่มาพร้อมหน้าหนาว
29 พฤศจิกายน 2567 67,217 -
คุณสมบัติของกาแฟ
29 ตุลาคม 2567 31,524 -
6 โรคติดต่อ...ที่ควรระวังเมื่อมีน้ำท่วมขัง
26 กันยายน 2567 56,714 -
รู้จักกับปลาหมอคางดํา หรือปลาหมอสีคางดํา
26 กรกฏาคม 2567 65,817
จัดซื้อจัดจ้าง
-
รายงานผลการดำเนินงานตามแผนจัดหาพัสดุ (ผ.ด.3) ประจำปีงบประมาณ 2568 งวดที่ 1 เดือนตุลาคม - ธันวาคม 2567
-
รายงานผลการดำเนินงานตามแผนจัดหาพัสดุ (ผ.ด.3) ประจำปีงบประมาณ 2567 งวดที่ 2 เดือนเมษายน - มิถุนายน 2567
-
รายงานผลการดำเนินงานตามแผนจัดหาพัสดุ (ผ.ด.3) ประจำปีงบประมาณ 2567 งวดที่ 3 เดือนกรกฏาคม - กันยายน 2567
-
ประกาศเผยแพร่แผนการจัดซื้อจัดจ้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โครงการก่อสร้างอาคารเรียนระดับประถมศึกษาพร้อมปรับภูมิทัศน์ ภายใน
-
รายงานผลการดำเนินงานตามแผนจัดหาพัสดุ (ผ.ด.3) ประจำปีงบประมาณ 2566 งวดที่ 1 เดือนตุลาคม 2565 - มีนาคม 2566
ค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์
ปฎิทินกิจกรรม
ท่านคิดว่า อบจ.ระยอง ควรเน้นหนักแก้ไขปัญหาในเรื่องใดเป็นอันดับแรก
- ปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค โหวต
- แก้ไขปัญหายาเสพติด โหวต
- แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โหวต
- แก้ไขปัญหาน้ำท่วม โหวต
- ราคาผลผลิตภาคการเกษตร โหวต
สถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์
- กำลังใช้งาน 103 คน
- ผู้เข้าชมวันนี้ 3,115 คน
- ผู้เข้าชมทั้งหมด 20,402,908 คน
แปลภาษา
