ด้วยจังหวัดระยอง มีหนังสือ ที่ รย 0023.6/ว 1820 ลงวันที่ 3 เมษายน 2567 ได้รับแจ้งจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นว่า สถานการณ์ปัญหามลพิษทางอากาศที่มีความรุนแรงมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในบรรยากาศ ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (Particulate matter : PM 2.5) ซึ่งเป็นภัยสิ่งแวดล้อมที่ก่อให้เกิดการคุกคามสุขภาพของประชาชน หากได้รับ PM 2.5 เข้าไปในร่างกายส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อสุขภาพหรือก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองคอ ไอ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ใจสั่น ระคายเคืองตาหรือเป็นผื่นคันตามร่างกาย และหากสัมผัสฝุ่นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ รวมถึงผู้ป่วย ๔ กลุ่มโรคสำคัญที่ต้องเฝ้าระวัง คือ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ โรคผิวหนังอักเสบ และโรคตาอักเสบ อาจจะมีอาการผิดปกติ เจ็บป่วย หรือมีผลกระทบต่อสุขภาพที่มีความรุนแรงได้มากกว่าคนทั่วไป
ดังนั้น เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกันภัยและผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงขอประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนในพื้นที่ทราบถึงภัยและผลกระทบต่อสุขภาพจาก PM 2.5 ดังนี้
๑. ติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศ การประกาศแจ้งเตือนพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังผลกระทบ ต่อสุขภาพจากมลพิษทางอากาศจากสื่อต่าง ๆ ในพื้นที่ ได้แก่ โทรทัศน์ท้องถิ่น วิทยุชุมชน แอปพลิเคชั่น Air4Thai เป็นต้น โดยให้สังเกตสีเป็นหลัก หากเป็นสีส้มและสีแดง เป็นค่าฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐานและมีผลกระทบต่อสุขภาพควรปฏิบัติตนตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
๒. ประเมินตนเองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ เช่น มีอาชีพอยู่กลางแจ้งต้องสัมผัสฝุ่นเป็นเวลานาน หรืออาศัยในพื้นที่เสี่ยง เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หอบหืด เยื่อบุตาอักเสบ หัวใจและหลอดเลือด หากพบว่าเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่นและหมั่นดูแลป้องกันตนเองเป็นพิเศษ
๓. ในช่วงที่ฝุ่นละอองสูง ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมนอกบ้าน
๔. หากจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงที่มีฝุ่นสูง ให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากาก N95 และต้องสวมใส่ให้ถูกวิธี
๕. หากมีอาการระคายเคืองตาหรือแสบตา ไม่ควรขยี้ตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดสำหรับ
ผู้ที่เป็นต้อลม ต้อเนื้อ หรือภูมิแพ้บริเวณดวงตา รวมทั้งผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ ควรหาแว่นตา ที่มีขอบด้านบนและด้านข้าง และหากมีอาการผิดปกติ เช่น คันตามาก ตาแดงมาก มีขี้ตาสีเขียวหรือเหลืองหรือตามัวลงให้รีบไปพบจักษุแพทย์
๖. ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด ทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ โดยการเช็ด/ถู แบบเปียก และเปิดพัดลมให้อากาศหมุนเวียน
๗. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในช่วงเช้า และบริเวณที่มีฝุ่นสูง เช่น ริมถนน และห้ามสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นทุกชนิดขณะออกกำลังกายโดยเด็ดขาด หรือเปลี่ยนสถานที่ออกกำลังกายเป็นที่บ้าน
๘. ดื่มน้ำสะอาด และดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
๙. สังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย หากพบว่ามีอาการไอ แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ผื่นแดง หรืออาการผิดปกติอื่น ๆ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
ในการนี้ กองสาธารณสุข จึงขอประชาสัมพันธ์เผยแพร่สื่อลดเลี่ยงฝุ่น PM 2.5 รายละเอียดปรากฏตามเอกสารที่แนบมาพร้อมนี้