ด้วยจังหวัดระยอง โดยศูนย์บริหารและประสานการปฏิบัติเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID.-.19) จังหวัดระยอง ได้รับแจ้งจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท) ว่า นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ และการให้ข้อกำหนด ประกาศ และคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ยังคงมีผลใช้บังคับ นายกรัฐมนตรีได้ลงนามข้อกำหนดฯ และคำสั่งฯ จำนวน 2 ฉบับ ดังนี้
ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 18) ประกาศ ลงวันที่ 29 มกราคม 2564 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป มีสาระสำคัญ ดังนี้
1.1 การกำหนดพื้นที่สถานการณ์ เพื่อบังคับใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ ดังนี้
(1) พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร
(2) พื้นที่ควบคุมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ
(3) พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่เฝ้าระวัง เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศ
1.2 การใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษา
1.3 มาตรการควบคุมแบบบูรณาการที่จำเป็นสำหรับพื้นทีj
1.4 การเข้มงวดกับสถานที่หรือกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการระบาดของโรคแบบกลุ่มก้อน
1.5 มาตรการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว
1.6 มาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่
1.7 การดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคและการจัดระเบียบ
คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 2/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่เฝ้าระวัง ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 29 มกราคม 2564 กำหนดเขตพื้นที่สถานการณ์เป็น “พื้นที่ควบคุม” 20 จังหวัด “พื้นที่เฝ้าระวังสูง” 17 จังหวัด และ “พื้นที่เฝ้าระวัง” 35 จังหวัด
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) พิจารณาแล้ว ขอให้จังหวัดดำเนินการดังนี้
(1) รับทราบและถือปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด
การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 18) และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 2/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่เฝ้าระวัง ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดยเคร่งครัด
(2) สร้างการรับรู้มาตรการต่างๆ ตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 18) แก่ผู้ประกอบการ พนักงานผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ประชาชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องทุกระดับ
(3) การปรับระดับของแต่ละพื้นที่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สามารถเสนอต่อศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ตรวจสอบ กลั่นกรอง เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในระดับเขตอำเภอที่อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบได้
(4) กรณีที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณาจากข้อเท็จจริงและสถานการณ์
ในพื้นที่แล้วเห็นว่า มีความจำเป็นที่จะกำหนดข้อห้าม เงื่อนไข และมาตรการที่เข้มข้นกว่าข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 18) ให้เป็นดุลยพินิจของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
(5) กรณีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ได้มีมติให้ออกประกาศหรือคำสั่งให้ส่งประกาศหรือคำสั่งให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทยทราบโดยเร็ว เพื่อรายงานสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป รวมทั้งให้จังหวัด ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบประกาศหรือคำสั่งโดยทั่วกัน
ศูนย์บริหารและประสานการปฏิบัติ (COVID - 19) จังหวัดระยอง พิจารณาแล้ว จึงขอให้ท่านรับทราบและถือปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว โดยเคร่งครัด
ขอประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้มาตรการต่างๆ ตามข้อกำหนด ออกความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 18) แก่ผู้ประกอบการ พนักงานผู้ให้บริการ ประชาชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องทุกระดับ รายละเอียดปรากฏตามเอกสารที่แนบมาพร้อมนี้
คำสั่งศูนย์โควิด
โทรสารในราชการกระทรวงมหาดไทย
ข้อกำหนดในมาตรา9