โฆษกรัฐบาลย้ำ ตั้งแต่ 14 พ.ย.ออกอากาศรายการวิทยุโทรทัศน์และจัดกิจกรรมทุกประเภทได้ตามปกติ ให้ผู้จัดใช้ดุลพินิจอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ วอนนักเลงคีย์บอร์ดระมัดระวังการแสดงความเห็นกระทบความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ
พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่ ครม.มีมติ เห็นชอบให้ทุกภาคส่วนสามารถจัดกิจกรรมได้ทุกประเภท และออกอากาศรายการโทรทัศน์และวิทยุได้ตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.59 เป็นต้นไป ว่า รัฐบาลคำนึงถึงการขับเคลื่อนประเทศให้เดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะเพื่อให้ภาคธุรกิจเอกชนและภาคประชาชนสามารถประกอบการกิจการได้โดยสะดวก ควบคู่ไปกับการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างเหมาะสม
"รัฐบาลเชื่อมั่นว่าความชัดเจนดังกล่าว จะช่วยให้ผู้ประกอบการหรือนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศคลายความกังวลลง และสามารถวางแผนกำหนดแนวทางดำเนินธุรกิจ จัดกิจกรรม หรือออกอากาศรายการได้อย่างที่เคยปฏิบัติ เช่น การจัดงานเทศกาลระดับประเทศและระดับจังหวัด งานประเพณีวัฒนธรรม กิจกรรมสถานบันเทิง งานแสดงดนตรี งานเลี้ยงสังสรรค์ การแข่งขันกีฬา รวมถึงการเผยแพร่ละครหรือรายการบันเทิงทางสื่อต่าง ๆ โดยพิจารณาถึงบรรยากาศหรือความรู้สึกของประชาชนควบคู่ไปด้วย"
พลโท สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการจัดกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะ ซึ่งต้องขออนุญาตใช้สถานที่หรือใช้เสียง ผู้จัดกิจกรรมจะเป็นผู้ใช้ดุลพินิจในการดำเนินงาน โดยผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้บริหารท้องถิ่น หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้งสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน ในพื้นที่นั้นๆจะเป็นผู้ให้ข้อสังเกตหรือคำแนะนำตามสมควร เพื่อให้กิจกรรมสามารถดำเนินการต่อไปได้โดยไม่ขัดต่อความรู้สึกของสังคม
นอกจากนี้ รัฐบาลอยากวิงวอนนักเลงคีย์บอร์ดหรือผู้ใช้โซเชียลมีเดียทั้งหลาย ให้ ระมัดระวังการแสดงความคิดเห็นที่อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศในแง่มุมต่าง ๆ เช่น นำเรื่องการอนุญาตให้จัดกิจกรรมหรือออกอากาศได้ตามปกติไปเชื่อมโยงกับความไม่เคารพรักสถาบัน ขณะเดียวกันผู้ที่รักและเทิดทูนสถาบันก็จะต้องคำนึงถึงการขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้าต่อไปข้างหน้าด้วย