“ประชาชนในพื้นที่ 4 ตำบลรอบศูนย์กำจัดขยะฯ ยกมือผ่านฉลุย ในการประชุมรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชนตามโครงการศึกษาพัฒนาศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจร จังหวัดระยอง ต้นแบบพลังงานยั่งยืน ”
วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 เวลา 10.00 น. นายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิด “ประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโครงการศึกษาพัฒนาศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจร จังหวัดระยอง ต้นแบบพลังงานยั่งยืน” ณ ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจร จังหวัดระยอง พร้อมทั้งนายกิตติ เกียรติ์มนตรี รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง, นายมนตรี ชนะชัยวิบูลวัฒน์ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง, นายอรุณ วิชกิจ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการวางแผนและการวิเคราะห์นโยบาย รวมทั้งผู้นำท้องถิ่น, ผู้นำชุมชน, ประชาชนในเขตพื้นที่ 4 ตำบลรอบศูนย์กำจัดขยะฯ ประกอบด้วย ตำบลหนองตะพาน,ตำบลทับมา,ตำบลน้ำคอก และตำบลมาบข่า, ผู้บริหารบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุข อบจ.ระยอง เข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย โดยมีนายสุริยะ ศิริวัฒน์ รักษาการแทน ผู้อำนวยการกองสาธารณสุข เป็นผู้กล่าวรายงานและความเป็นมาของโครงการดังกล่าว
อบจ.ระยอง ในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ ที่มีอำนาจหน้าที่ในการให้บริการสาธารณะ ภายใต้กลไกการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อมุ่งสู่ศูนย์การเรียนรู้ด้านการจัดการขยะครบวงจรและพลังงานต้นแบบของประเทศ ซึ่งได้จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชนรวม 4 ประเด็น ประกอบด้วย (1.) โครงการศึกษาพัฒนาศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจร จังหวัดระยอง ต้นแบบพลังงานยั่งยืน (2.) โครงการสระเก็บน้ำดิบ สำหรับกิจกรรมภายในศูนย์กำจัดขยะฯ และบริเวณชุมชนโดยรอบ (3.) การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อประกอบการยื่นหนังสือขออนุญาตใช้พื้นที่สาธารณะ ตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และ(4.) การประชุมคณะกรรมการไตรภาคี เพื่อดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะ ครั้งที่ 1/2565 โดยมติที่ประชุมยกมือเห็นชอบตามที่เสนอครบทุกโครงการ โดย อบจ.ระยอง ได้จ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศึกษาพัฒนาศูนย์กำจัดขยะฯ เพื่อมุ่งสู่การบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร และเป็นต้นแบบด้านพลังงานทดแทน โดยมุ่งเน้นการนำขยะกลับมาใช้อย่างคุ้มค่า ตามแบบเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ทั้งนี้ผลจากการศึกษาผังการใช้ประโยชน์จากที่ดินภายในศูนย์กำจัดขยะฯ พบว่ามีการวางระบบต่างๆ เต็มพื้นที่แล้ว จึงมีความจำเป็นต้องขอใช้พื้นที่สาธารณะที่อยู่ติดกับศูนย์กำจัดขยะฯ เนื้อที่ประมาณ 49 ไร่เศษ เพื่อพัฒนาเป็นสระกักเก็บน้ำดิบ และพื้นที่ศูนย์การเรียนรู้ด้านการจัดการขยะและพลังงานหมุนเวียนระดับประเทศต่อไป